วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาเหตุที่องค์พระพิฆเนศมีเศียรเป็นช้าง

     สวัสดีครับวันนี้จะมาเล่าเรื่องราวว่าทำไม พระพิฆเนศ พระองค์ท่านจึงมีเศียรเป็นช้างนะครับ ผมคิดว่าหลายๆคนคงยังไม่รู้เรืาองราวเลยนำมาเขียนเป็นบทความให้อ่านกันนะครับ ^^


เหตุที่พระพิฆเนศวรมีเศียรเป็นช้าง (วันโลกาวินาศและการไม่นอนหันศีรษะไปยังทิศตะวันตก) สืบเนื่องมาจากในสมัยก่อนนานมากแล้ว

     มีนางเทพอัปสรนางหนึ่ง เป็นข้ารับใช้ของพระสรัสวดี (ชายาของพระพรหม) แต่เนื่องจากนางเป็นนางเทพอัปสรที่มีจิตใจไม่คค่อยดีนะครับไม่เคยที่จะปฏิบัติธรรมคติแห่งจารีต จึงเป็นที่เกลียดชังในหมู่นางเทพอัปสรด้วยกันเอง 

     ครั้งต่อมานางลงมาจุติถือกำเนิดเป็นจ้าวแห่งช้างน้ำ มีนามว่า "อสุรภังคี" มีอำนาจกล้าแข็งเที่ยวเบียดเบียนตรีโลกจนให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ความทราบถึงพระอิศวรเจ้า พระอิศวรจึงมีดำริจะให้พระขันฑกุมารไปปราบเพื่อความสงบสุขของตรีโลก แต่ให้เข้าพิธีโสกันต์เสียก่อน


      ณ เขาไกรลาสในเมื่อวันมงคลฤกษ์โสกันต์มาถึง พวกเทพยดา ก็ต่างมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ณ เขาไกรลาส แต่บังเอิญว่าในวันนั้น พระนารายณ์ซึ่งจะต้องมาทำพิธีตัดพระเกสาให้เป็นมงคลแก่องค์พระขันฑกุมารเผลอบรรทมหลับสนิท พระชายาของพระองค์ (พระนางลักษมี) ก็ไม่สามารถที่จะปลุกบรรทมได้ พระอิศวร, พระพรหม และเหล่าเทพยดาทั้งหลายก็รอพระนารายณ์อยู่นาน จวนจะถึงฤกษ์อยู่แล้ว พระอิศวรจึงให้สมเด็จอมรินทราธิราชนำ มหาสังข์พิชัยยุทธไปเป่าปลุก บรรทมพระนารายณ์ จนในที่สุดพระนารายณ์ตื่น สมเด็จอมรินทราธิราช (พระอินทร์) จึงทูลว่าพระอิศวรให้มาเชิญไปทำพิธีโสกันต์พระขันฑกุมาร แต่เนื่องจากขณะนั้นเองพระนารายณ์ยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น พระองค์จึงเผลอพลั้งพูดกล่าววาจาสิทธิ์ออกไปว่า "ลูกหัวหาย จะนอนหลับให้สบายก็ไม่ได้" และด้วยวาจาสิทธิ์ขอพระองค์ 
เศียรของพระขันฑกุมารจึงอันตรธานหายไป 


     ครั้งพระนารายณ์และสมเด็จอมรินทราธิราชเดินทางมาถึงสถานที่กระทำพิธีโสกันต์แล้วไม่พบเศียรของพระกุมาร พระนารายณ์ถึงกับพูดว่า "นี่มันวันโลกาวินาศหรืออย่างไร" (วันที่เศียรของพระขันฑกุมารอันตรธานหายไปจึงถูกเรียกว่าวันโลกาวินาศตั้งนั้นเป็นต้นมานะครับ)

   บรรดาเทพทั้งหลายต่างอยู่ในอาการตกอกตกใจในเหตุที่เกิดขึ้น แต่ว่าพระวิษณุกรรมตั้งสติคืนกลับมาเร็วกว่าเทพองค์อื่น พระองค์ทะยานลงไปยังพื้นพิภพเพื่อตามหาเศียรของพระขันฑกุมารที่ขาดหายไป แต่ว่าในวันนั้นพระองค์ไม่สามารถหาเศียรของพระขันฑกุมารได้เลยโดยหากพระองค์ไม่สามารถนำเศียรหรือศีรษะของสัตว์ชนิดใดนำมาต่อเข้ากับร่างของพระขันฑกุมารภายในชั่วเวลานี้จะทำให้พระอิศวรไม่สามารถชุบชีวิตพระโอรสได้อีกเลย

 
     พระวิษณุกรรมจึงใช้ญาณทิพย์มองดูมนุษย์ที่ถึงฆาตหรือนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกเลย 

(ชาวพุทธส่วนใหญ่เชื่อกันว่าหากนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกจะถูกทวยเทพตัดศีรษะเอา)



     พระองค์พบเพียงพญาช้างตนหนึ่งนอนหันหัวไปในทิศดังกล่าว พระวิษณุกรรมจึงตัดมาต่อให้กับองค์พระขันฑกุมาร แล้วพระเป็นเจ้าทั้งสาม (พระอิศวร, พระพรหม, พระนารายณ์) จึงเปลี่ยนนามให้ใหม่ว่า "พระคเณศ" หรือ "พระพิฆเนศ" ด้วยเหตุทั้งหมดนี้นะครับ พระพิฆเนศวรจึงมีพระเศียรเป็นช้างดังเช่นที่เห็นกันในปัจจุบันนั้นเองครับ ^^

3 ความคิดเห็น:

  1. นี่ไม่น่าเกี่ยวกับพุทธนะครับ เพราะเป็นเรื่องราวของ พรามห์ม-ฮินดู

    ตอบลบ
  2. ผิดหมดเลย ไปอ่านมาจากไหน

    ตอบลบ